วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

Free BSD คืออะไร

  FreeBSD เป็นระบบปฏิบัติการ (OS: Operating System) ที่มีความสามารถสูง สามารถติดตั้ง และสนับสนุนการทำงานในหลาย Platform อาทิเช่น ระบบ x86 (Pentium และ Athlon), AMD-64 (Opteron, Athlon64 และ EM64T), Alpha/AXP, IA-64, PC-98 และ UltraSPARC
     FreeBSD พัฒนามาจาก BSD เป็นเวอร์ชั่นของ UNIX® พัฒนาโดย University of California, Berkeley ปัจจุบันมีผู้สนใจและหันมาใช้ระบบปฏิบัติการ FreeBSD กันอย่างแพร่หลาย สามารถประยุกต์ใช้ทำเครื่องแม่ข่าย (Server) สำหรับให้บริการต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ก็ใช้ระบบปฏิบัติ FreeBSD ด้วยเช่นกัน เพราะระบบปฏิบัติการดังกล่าวมีประสิทธิภาพสูง ทำงานได้รวดเร็ว ติดตั้งง่าย ระบบความปลอดภัยสูง เพื่อนๆ ลองดูซิครับแล้วจะติดใจ
ที่มา :: www.freebsd.org
ความเป็นมาของ ฟรีบีเอสดี (History of FreeBSD)
         Jordan Hubbard ได้เขียนถึงความเป็นมาของ FreeBSD เอาไว้ที่หน้าเว็บไซต์ http://www.freebsd.org/doc/en_US.ISO8859-1/books /handbook/history.html เอาไว้ว่า
         โครงการ FreeBSD เกิดขึ้นประมาณต้นปี 1993 ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากพัฒนาการของ "Unofficial 386BSD Patchkit'' จากผู้ร่วมงาน 3 คน คือ Nate Williams, Rod Grimes และ Jordan Hubbard

         เป้าหมายเดิมของ ของการสร้างโปรแกรม 386BSD เพื่อแก้ปัญหามากมาย ที่ patchkit แก้ไม่ได้ ชื่อโครงการนี้แต่เดิมคือ "386BSD 0.5" หรือ "386BSD Interim'' นั่นเอง
         386BSD เดิมเป็นระบบปฎิบัติการของ Bill Jolitz's แต่โปรแกรมนี้มีจุดอ่อนหลายอย่างและไม่ได้พัฒนาต่อเนื่อง กล่าวคือ patchkit มีขนาดใหญ่มากขึ้นทุกวัน และทำงานได้ช้า (patchkit swell) พวกเขาจึงช่วยแก้กันปัญหา 386BSD แต่แผนปฏิบัติการครั้งนี้ต้องหยุดชะงักเพราะ Bill Jolitz เขาตัดสินใจถอนตัวไม่สนับสนุนดำเนินการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยผู้ร่วมงานทั้ง 3 คนก็ยังไม่ทราบเหตุผลการตัดสินใจของ Bill Jolitz จนถึงบัดนี้
         ในส่วนของผู้ร่วมงานเห็นว่าถ้าดำเนินการแก้ปัญหาสำเร็จจะมีประโยชน์มากแม้ ว่า Bill จะไม่สนับสนุนพวกเขาก็ตามเลยดำเนินการต่อไป และเปลี่ยนชื่อโครงการว่า "FreeBSD'' โดยความร่วมมือของ David Greenman การดำเนินการเบื้องต้นโดยการกำหนดเป้าชัดเจน หลังจากนั้นโครงการจึงเป็นรูปร่างเป็นจริงขึ้นมา Jordan Hubbard กล่าวว่าเขาติดต่อกับ Walnut Creek CDROM เพื่อมุ่งหวังปรับปรุงการปฏิบัติงานของ FreeBSD แก้ข้อบกพร่องในการใช้ร่วมกับอินเตอร์เน็ต Walnut Creek CDROM ไม่เพียงแต่สนับสนุนความคิด FreeBSD บน CD เท่านั้น แต่ดำเนินการสนับสนุนโครงการด้วยการให้สามารถใช้งานกับอินเตอร์เน็ตได้เร็ว มากขึ้น ถ้าหากว่าไม่มี Walnut Creek CDROM's มาช่วย FreeBSD จะถูกลืมไป ชื่อเสียงการยอมรับน่าจะไม่มีจนถึงทุกวันนี้
         การจัดจำหน่าย CDROM (and general net-wide) ครั้งแรกคือ FreeBSD 1.0 ตั้งแต่ธันวาคม 1993 ชุด CDROM นี้พัฒนามาจาก 4.3BSD-Lite ("Net/2'') ซึ่งเป็นที่ชื่อที่มาจาก U.C. Berkeley มีส่วนประกอบได้มาจาก 386BSD Free Software Foundation จัดได้ว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จทีเดียว
ต่อมาอีกชุดหนึ่งคือ FreeBSD 1.1 ออกมาในเดือนพฤษภาคม 1994.
         ในช่วงเวลาเดียวกันเริ่มเกิดปัญหาขึ้นเมื่อ Novell and U.C. Berkeley มีการดำเนินการฟ้องร้องเรื่องสถานภาพตามกฎหมาย Berkeley Net/2 tape เงื่อนงำโดยสถานภาพในแง่กฎหมายตาม U.C. Berkeley's ซึ่งได้รับสัมปทานส่วนใหญ่ Net/2 และเป็นทรัพย์สินของ Novell ซึ่งได้รับสิทธิบัตรมาจาก AT&T สิ่งที่ Berkeley ได้รับมาเป็นการตอบแทนก็คือ Novell's ซึ่ง 4.4BSD-Lite ปล่อยออกจำหน่าย เมื่อมีการจำหน่ายออกจริง จึงได้มีการประกาศว่า ลักษณะที่ไม่สะดวกใช้ มีการแนะนำให้ใช้ Net/2 แทนได้ รวมทั้ง FreeBSD งานทั้งโครงการดำเนินมาถึงปลายเดือนกรกฎาคม 1994 จึงมีการหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจาก Net/2 ภายใต้เงื่อนไขนั้น มีข้อตกลงให้จำหน่ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นสุดการจำหน่ายตามสัญญา, ตัวที่ออกมาจำหน่ายหลังสุดคือ FreeBSD 1.1.5.1. ก่อนที่จะไม่ให้จำหน่ายต่อไปอีก
         FreeBSD ได้ดำเนินการพัฒนาใหม่จากเดิมที่ใหม่สุดแต่ยังไม่ สมบูรณ์ซึ่งเรียกกว่า 4.4BSD-Lite bits. มันปราดเปรียวขึ้นเพราะ Berkeley's CSRG ตัดส่วนที่เทอะทะออกไปเพราะสะดวกในการปฏิบัติงานได้สะดวกขึ้น (due to various legal requirements) และโดยข้อเท็จจริงที่ว่า Intel port of 4.4 ไม่สมบูรณ์แบบเอาเลย โครงการนี้ต้องใช้เวลาจนถึงพฤศจิกายน 1994 ส่วนที่ไม่สมบูรณ์นี้ ต่อจากนั้นจึงส่งตัวนี้ส่ง FreeBSD 2.0 ทางอินเตอร์เน็ตและ CDROM (ในปลายเดือนธันวาคม) แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง (FreeBSD 2.0.5) ในการ release ครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จ ตามมาด้วยการ release ต่ออีกครั้งหนึ่ง (FreeBSD 2.0.5) ในเดือนมิถุนายน 1995
         FreeBSD 2.1.5 เปิดตัวในเดือน สิงหาคม 1996 และเป็นที่นิยมพอสมควรในบรรดา ISP และ แวดวงการค้า เป็นผลให้มีการออกชุดใหม่ FreeBSD 2.1.7.1 ออกในเดือน กุมภาพันธ์ 1997 และ ก่อให้เกิดการพัฒนา 2.1-STABLE ขึ้น ซึ่งเป็นในช่วงการดูแลให้โปรแกรมสามารถใช้การได้ดี เน้นแก้ไขในด้านการรักษาระบบความปลอดภัยและการแก้ปัญหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม (RELENG_2_1_0).

         FreeBSD 2.2 แยกย่อยมาจากการพัฒนา mainline ("-CURRENT'') ในเดือนพฤศจิกายน 1996 ให้เป็น RELENG_2_2 branch, และมีการออกชุดที่สมบูรณ์ (2.2.1) ในเดือนเมษายน 1997 ที่มีการ releases ต่อมาร่วมกับ 2.2 branch มีในช่วง the summer และ fall of '97 อันสุดท้าย (2.2.8 ) ในเดือน พฤศจิกายน 1998 การเปิดตัวออกมาเป็นทางการของ FreeBSD 3.0 ในเดือนตุลาคม 1998 และถือเป็นการสิ้นสุดการการพัฒนาในรุ่น 2.2 branch.

         โครงการใหญ่มีการเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 20 เดือนมกราคม 1999 นำไปสู่โครงการย่อย คือ 4.0-CURRENT และ 3.X-STABLE branches จาก 3.X-STABLEคือ 3.1 เปิดตัวเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1999, 3.2 เมื่อ 15 พฤษภาคม 1999, 3.3 เมื่อ 16 กันยายน 1999, 3.4 เมื่อ 20 พฤษจิกายน 1999, และ 3.5 เมื่อ 24 มิถุนายน 2000, หลังจากนั้นไม่กี่วันมีการแก้ไขจาก 3.X-STABLE 3.5.1 เพื่อทำงานรักษาความปลอดภัยร่วมกับ Kerberos. และนี่ถือว่าเป็นการจัดเป็นการเปิดตัวครั้งสุดท้ายของ 3.X-STABLE 3.X branch
         มีการออกโครงการใหม่อีกโครงการหนึ่งเมื่อ 13 มีนาคม 2000 ก่อให้เกิด 4.X-STABLE branch มีการ releases 4.X-STABLE branch ออกมาหลายชุด เริ่มจากเดือนมีนาคม 2000 และออกชุดสุดท้ายคือ 4.11-RELEASE เมื่อเดือนมกราคม 2005.
         ชุดที่รอคอยกันมาคือ 5.0-RELEASE ออกมาเมื่อวันที่ 19 เดือนมกราคม 2003 เป็นงานที่พัฒนาต่อเนื่องกันมาเกือบ 3 ปี การเปิดตัวครั้งนี้จัดว่าเป็นการเริ่ม FreeBSD ยุคใหม่ที่การออกแบบมาเพื่อใช้กับf advanced multiprocessor และ สนับสนุน UltraSPARCและ ia64 platforms ตามมาด้วยการออกรุ่น5.1 ในเดือนมิถุนายน 2003 ตามมาด้วย 5.2.1-RELEASE ซึ่งออกมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2004
         ในเดือนสิงหาคม 2004 5.3-RELEASE และกำลังตามมาด้วย 5.4 ซึ่งเป็นการเริ่มต้น releases ชุด 5-STABLE branch จนถึงปัจจุบันโครงการที่พัฒนาต่อเนื่องยาวนานกันมาใน 6.X-CURRENT (trunk) branch, ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ และ SNAPshot releases เป็น 6.X ในแบบ CDROM และทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งติดตามได้จาก snapshot server

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Nod32 keys update 4 August 2011

Username:EAV-49864423
Password:n3pjcpencj

Username:EAV-49864425
Password:uppf7jrccd

Username:EAV-49864450
Password:h7ftjdj8ed

Username:EAV-49867559
Password:sb4rjr2d52

Username:EAV-49844450
Password:m3hkc5dxj5

Username:EAV-49844453
Password:7vpm6rptbd

Username:EAV-49844454
Password:j4xt6hp33t

Username:EAV-49844499
Password:26cnxaatkn

Username:EAV-49844535
Password:bchtevmmar

Username:EAV-49844540
Password:4urs4da74u

Username:EAV-49844541
Password:vchhxejpca

Username:EAV-49864422
Password:tjxthn5636


AV / ESS

Username: EAV-49666788
Password: cueb8p6kej
Expiry: 01/11/2011

Username: EAV-49664470
Password: ff7jvn2h46
Expiry: 01/11/2011

Username: EAV-49666789
Password: p3nf7h6s62
Expiry: 01/11/2011

Username: EAV-49431534
Password: j2rcrkaun2
Expiry: 24/10/2011

Username: EAV-49432292
Password: 4tx765e2d6
Expiry: 24/10/2011

Username: EAV-49431500
Password: 6t2e4d87em
Expiry: 24/10/2011

Username: EAV-49432296
Password: 2ueexhr4uu
Expiry: 24/10/2011

Username: EAV-49697881
Password: pc6kst2jf3
Expiry: 02/11/2011

Username: EAV-49844450
Password: m3hkc5dxj5
Expiry: 07/11/2011

Username: EAV-49844453
Password: 7vpm6rptbd
Expiry: 07/11/2011

Username: EAV-49844453
Password: 7vpm6rptbd
Expiry: 07/11/2011

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

Nod32Keys in April 2011 Good For V2.7

Good for V.2.7
Username:EAV-44119993
 Password:ab6t8fud6v
Username:EAV-44616882
 Password:7khrrmje3f
Username:EAV-34139731
 Password:t334p3p3pr
Username:EAV-44662897
 Password:tu3becb45u
Username:EAV-43620599
 Password:6h7n28va54
Username:EAV-44559231
 Password:te3jpxtujp

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

Nod32Keys in April 2011

Eset Smart Security 4 Keys
Username:EAV-44440986
Password:5h8cvf2k2d
Username:EAV-44440988
Password:b788rbba38
Username:EAV-44444181
Password:e43hsm6usu
Username:EAV-44444182
Password:sa8nse64ha
Username:EAV-44441079
Password:dt88hr7csj
Username:EAV-44441080
Password:r2fefj7jj2
Username:EAV-44441981
Password:shme84ed6r
Username:EAV-44440188
Password:x5dcj8j73r
Username:EAV-44444186
Password:6k8ee4rfjx
Username:EAV-44441983
Password:27kb4ur56k
Username:EAV-44443141
Password:akbptj75ns
Username:EAV-44440184
Password:44x5rt84j3
Nod32 Antivirus 4 Keys
Username:EAV-44603276
Password:kbdm28cvrv
Username:EAV-44600884
Password:mf46mmfsrf
Username:EAV-44599867
Password:575ddesj6r
Username:EAV-44553005
Password:6e6rba2nfa
Username:EAV-44553001
Password:s46xnkcadk
Username:EAV-44553077
Password:emaubpn352
Username:EAV-44486600
Password:tccufuuh6v
Username:EAV-44486437
Password:fh7ppxb5pt
Username:EAV-44486300
Password:vtss6ruacm

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

netbook vs notebook





การออกแบบ

Netbook
การออกแบบเน็ตบุ๊กตั้งอยู่บนหลักการที่ต้องการสร้างคอมพิวเตอร์ราคาไม่แพงและมีความสามารถที่เพียงพอต่อการใช้เล่นอินเตอร์เน็ตและทำงานพื้นฐานง่ายๆ ดังนั้นจึงออกแบบให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดสามารถพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเพียง 10”x7.5” นิ้ว (แล้วแต่รุ่น) และมีความหนาเพียง 1 นิ้ว ซึ่งช่วยให้สามารถพกพาไปใช้งานที่ต่างๆ ได้ง่าย แต่อาจะรำคาญกับขนาดของหน้าจอและปุ่มกดที่เล็กไปหน่อยตามขนาดของตัวเครื่อง แต่เมื่อใช้ไปซักระยะจะรู้สึกคุ้นชินไปเอง

Notebook
ในส่วนของโน้ตบุ๊กถึงจะเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานนอกสถานที่เช่นเดียวกัน แต่โน้ตบุ๊กถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่แตกต่างกัน โดยโน้ตบุ๊กจะเน้นไปที่ประสิทธิภาพการทำงาน มากกว่าขนาด ทำให้โน้ตบุ๊กมีขนาดที่ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด (มาตรฐานคือหน้าจอขนาด 14 นิ้ว) ซึ่งในจุดนี้ยังส่งผลให้อุปกรณ์ภายในอย่างจอภาพและคีย์บอร์ดในโน้ตบุ๊กมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น ช่วยให้สามารถใช้งานได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น


สเปกเครื่อง

Netbook
เรื่องของสเปกเน็ตบุ๊กให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่เน้นการประหยัดพลังงานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นซีพียู เช่น ซีพียูรุ่น Atom และ AMDของอินเทล ฮาร์ดดิสก์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ที่กินไฟน้อยแทบทั้งสิ้น ซึ่งข้อดีคือสามารถช่วยยืดเวลาในการทำงานของเน็ตบุ๊กให้นานยิ่งขึ้น (อย่างต่ำก็ 3 ชั่วโมง) แต่ข้อเสียคือประสิทธิภาพในการทำงานที่ได้ค่อนข้างต่ำ สามารถทำงานได้เฉพาะงานในระดับพื้นฐานทั่วไปเท่านั้น อุปกรณ์บางอย่างที่มักจะมีในโน้ตบุ๊ก เช่น ออพติคอลไดร์ฟ จะไม่มีในเน็ตบุ๊ก ฮาร์ดดิสก์ในเน็ตบุ๊กก็จะมีความจุที่จำกัด

Notebook
ในเรื่องของสเปกโน้ตบุ๊กค่อนข้างให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการทำงานค่อนข้างมาก อุปกรณ์ต่างๆ ภายในจึงเน้นไปที่การทำงานเป็นหลัก ทำให้โน้ตบุ๊กสามารถรองรับงานได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะงานเบาหรืองานหนักก็ไม่มีปัญหา มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานและความบันเทิงที่ครบครัน ซึ่งอาจกินไฟมากกว่า แต่เทคโนโลยีของแพลตฟอร์มโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่่ๆ อย่าง เซนทริโนCore i3  จากค่ายอินเทล ก็สามารถให้ทั้งประสิทธิภาพการทำงานที่สูงและยังประหยัดไฟแบตเตอรี่อีกด้วย (โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นสามารถใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 4-5 ชั่วโมง)



ประสิทธิภาพและความสามารถ
Netbook
ประสิทธิภาพและความสามารถของเน็ตบุ๊ก เน้นไปที่ความสามารถในการทำงานผ่านระบบเครือข่ายแบบไร้สาย สำหรับใช้ในการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะกับการใช้งานด้านอินเทอร์เน็ต ที่สามารถใช้งานได้สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถทำงานพื้นฐานด้านอื่นๆ ได้ แต่อาจมีความเร็วที่ไม่สูงมากนัก

Notebook
ความสามารถของโน้ตบุ๊กโดยภาพรวมแล้วสามารถทำงานได้ค่อนข้างที่จะหลากหลาย มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี กว่าเน็ตบุ๊กค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานพื้นฐานทั่วไปหรือการทำงานที่ต้องใช้ความสามารถที่สูง โน้ตบุ๊กก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางรุ่นนั้นออกแบบมาให้เล่นเกม 3 มิติ หรือ ตัดต่อวิดีโอ ทำกราฟิกได้ ก็ยังมี



ลักษณะการใช้งาน

Netbook
ลักษณะการใช้งานของเน็ตบุ๊ก จะเน้นการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต (อย่างที่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็น เน็ตบุ๊ก’) แอพลิเคชั่นขั้นพื้นฐานที่ใช้ทรัพยากรของเครื่องไม่สูงนัก เช่น การดูหนัง ฟังเพลงจากเว็บ เล่นอินเทอร์เน็ต พิมพ์งาน ดูเอกสาร และเล่นเกมส์แฟลชเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และไม่เหมาะกับการทำงานแบบ multitasking หรือการเปิดงานหลายๆ แอพลิเคชั่นในเวลาเดียวกัน

Notebook
โน้ตบุ๊กค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของการทำงานที่สามารถทำงานได้ค่อนข้างที่จะหลากหลายกว่าไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วๆ ไปเช่นดูหนัง ฟังเพลงทั้งจากอินเทอร์เน็ตและซีดีหรือดีวีดีแบบความละเอียดสูง เล่นอินเทอร์เน็ต ไปจนถึงการทำงานเฉพาะด้านที่ต้องอาศัยประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น เช่นการตัดต่อภาพยนตร์ หรือทำงานด้านกราฟิก รวมถึงเล่นเกมส์สามมิติ เป็นต้น และยังสามารถทำงานแบบ multitasking แบบไม่มีปัญหา


น้ำหนัก

Netbook
เน็ตบุ๊กถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานนอกสถานที่เป็นหลัก เน้นให้ผู้ใช้สามารถพกพาไปในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก จึงมีการตัดทอนอุปกรณ์บางส่วนออกไปบ้างเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงาน (เช่นออพติดคอลไดรฟ์) และยังช่วยลดขนาดและน้ำหนักของเน็ตบุ๊กลงไปได้มากโดยส่วนใหญ่แล้วเน็ตบุ๊กทั่วๆ ไปจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งจะเบากว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว


Notebook
ในด้านของโน้ตบุ๊กถึงแม้จะออกแบบมาเพื่อการใช้งานนอกสถานที่เช่นกัน จุดเด่นของโน้ตบุ๊กอยู่ที่ประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงานมากกว่า จึงไม่แปลกที่โน้ตบุ๊กจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าและหนักกว่าเน็ตบุ๊กเกือบเท่าตัว ทั้งยังมีอุปกรณ์ที่จำเป็นครบครันกว่า โดยน้ำหนักของโน้ตบุ๊กทั่วๆ ไปจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.4 กิโลกรัมสำหรับโน้ตบุ๊กขนาดจอ 14 นิ้ว


ราคา

Netbook
ด้วยวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ในเน็ตบุ๊กที่ไม่เน้นประสิทธิภาพหรือความเร็วที่สูงมาก ทำให้ราคาของเน็ตบุ๊ก มีราคาที่ค่อนข้างต่ำในท้องตลาด เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการคอมพิวเตอร์แบบพกพา (อาจเป็นเครื่องที่สองหรือเครื่องที่สาม) ในราคาที่ประหยัดสำหรับการทำงานในระดับพื้นฐานโดยเฉพาะกับการเล่นอินเทอร์เน็ต หรือบางคนอาจจะซื้อเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกให้บุตรหลานหรือคนใกล้ชิด  (ราคาที่วางจำหน่ายในปัจจุบันเริ่มตั้งแต่ 8990 เป็นต้นไป)

Notebook
เรื่องของราคาโน้ตบุ๊กขึ้นอยู่กับสเปก และความสามารถของโน้ตบุ๊กเป็นหลักยิ่งโน้ตบุ๊กที่สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือมีลูกเล่นเด่นๆ ในการทำงาน โน้ตบุ๊กรุ่นนั้นก็จะยิ่งมีราคาแพงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว (ราคาที่วางจำหน่ายในปัจจุบันเริ่มตั้งแต่ 12900 เป็นต้นไป)

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

Acer Aspire One D250 มาพร้อม Windows7 และ Android

Acer ปล่อย Aspire one D250 พร้อมกับ ลง Windows7 และ Android  2ระบบภายในร่างเดียว
แต่มีข้อเสียอยูหน่อยหนึ่งคือ เจ้าตัว Aspire one ไม่มี ทัชสกรีนนี่แร่ะปัญหา อีกอย่าง Android ออกแบบมาสำหรับ ทัชสกรีน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ สาวก Android แล้ว ยังไงก็สามารถเล่นได้อยู่แล้วโดยการใช้เม้าส์ ลากไปมาหรือ ขึ้นลงได้แทนก็ยังได้ หรือไม่ก็ใช้ ปุ่ม End up ESc ก็ได้.














สเป็คคร่าวๆ (เป็นรุ่นล่าสุดที่มีจำหน่าย เดือนเมษายน 2554 นี้)

Screen : 10.1" SD LED
CPU : Intel ATom N550 Dual Core CPU speed 1.5 GHz
OS : Dual OS with Genuine Windows7 Starter and Android
Chipset : Mobile Intel NM10 Express Chipset
RAM : 2GB DDR3
HDD : 320GB and 500GB
Graphics : Intel GMA 3150


ขอบคุณ : pocket-lint.com

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

Apple ประกาศ เปิดให้อัพเดท iOS 4.3

ในที่สุด แอปเปิ้ล (Apple) ก็ได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถอัพเดทระบบปฏิบัติการ iOS 4.3 สำหรับ iPhone, iPad และ iPod Touch ก่อนที่ iPad 2 จะวางตลาดในวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ศกนี้ ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าว่า iOS 4.3 ได้รับการพัฒนาปรับปรุง ตลอดจนมีการเพิ่มคุณสมบัติการทำงานอะไรใหม่ๆ เข้ามาบ้าง





หลังจากที่ปล่อย iOS 4.3 เวอร์ชันทดสอบออกมายั่วน้ำลายผู้ใช้ iPhone, iPad และ iPod Touch กันมาได้เดือนกว่าๆ  Apple ก็ตัดสินใจเปิดให้ดาวน์โหลด iOS 4.3 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS 4.3 ทางบริษัทได้พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมทั้งเพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจเข้าไป โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้
กลไกการทำงานของ JavaScript ที่เร็วขึ้น: สำหรับการท่องเว็บด้วยบราวเซอร์ Safari โดยจะเร็วกว่าบน iOS 4.2 ประมาณ 2 เท่า
สนับสนุนการทำงานของ AirPlay ที่ดีขึ้นกว่าเดิม: โดยแอพพลิเคชันจากผู้พัฒนาทั่วไปจะสามารถเข้าถึงบริการของ AirPlay ในการสตรีมคอนเท็นต์ออกทางทีวีได้ ในขณะเดียวกันผู้ใช้ยังสามารถสตรีมวิดีโอจากแอพ Photos ได้อีกด้วย
Personal Hotspot: ระบบปฏิบัติการ iOS 4.3 จะเปิดโอกาสให้เจ้าของ iPhone 4 สามารถแชร์การเชื่อมต่อเน็ตกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากถึง 5 ชิ้นด้วยกัน พูดง่ายๆ ก็คือ คุณสามารถเปลี่ยน iPhone ให้กลายเป็น Hotspot ได้นั่นเอง

ขอบคุณ : Arip.co.th

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ย้ายค่ายมือถือเบอร์เดิมได้วันละ 300 เบอร์



ผู้ให้บริการย้ายค่ายเบอร์เดิมยันระบบไม่มีปัญหา พร้อมเพิ่มจำนวนเป็น 300 เลขหมายต่อวันต่อโอเปอเรเตอร์ และจะทยอยขยายเพิ่มจากของเดิมอีกวันละ 100 เลขหมายในแต่ละเดือน ส่วนจุดการให้บริการต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 10 แห่งต่อโอเปอเรเตอร์ 1 ราย แต่กรุงเทพฯยังมีเพียง 5 แห่งเท่าเดิม
      
       นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์
       กล่าวถึงความคืบหน้าของการให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์มือถือ (Number Portability) หรือนัมเบอร์พอร์ตว่า ขณะนี้ระบบการให้บริการดังกล่าวไม่มีปัญหาและถือว่าเป็นไปด้วยความราบรื่น ทางศูนย์ฯจึงได้ทยอยเปิดให้ผู้บริโภคสามารถย้ายค่าย (พอร์ต) ได้เพิ่มขึ้น จากช่วงแรกวันละ 100เลขหมายต่อโอเปอเรเตอร์ขึ้นไปเป็น 200 เลขหมายจนขณะนี้เพิ่มเป็นวันละ 300 เลขหมายต่อวันต่อโอเปอเรเตอร์ และมีแผนจะขยายจำนวนการพอร์ตเพิ่มขึ้นอีกวันละ 100 เลขหมายต่อวันต่อโอเปอเรเตอร์ในแต่ละเดือนต่อจากนี้ไป
      
       หลังจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเปิดให้บริการคงสิทธิเลขหมายตั้งแต่ 5 ธ.ค.2553 พบว่า ปัญหาที่มีผู้บริโภคร้องเรียนมากคือไม่สามารถย้ายเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้เพราะเป็นชื่อของนิติบุคคล, มีศูนย์ให้บริการที่รับโอนย้ายเครือข่ายน้อย, ชื่อ-นามสกุลไม่ถูกต้องตามที่จดทะเบียนทั้งที่เมื่อตรวจสอบแล้วชื่อ-นามสกุลตรงตามที่เอกสารระบุทำให้เสียเวลา ซึ่งคิดเป็นประมาณ 40% จาก 100 เบอร์ต่อวันที่ไม่สามารถพอร์ตได้
      
       'ปัญหาช่วงแรกคือเรื่องการแสดงตน แต่ขณะนี้ก็ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะผู้บริโภคเริ่มเข้าใจวิธีการย้ายค่ายมือถือใหม่ ทางศูนย์ฯและผู้ให้บริการมีการร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงแรกๆ จนทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี'
      
       ส่วนจุดให้บริการช่วงแรกเปิดให้บริการโอนย้ายเลขหมายเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 5 จังหวัด ขณะนี้ได้ขยายจุดให้บริการเพิ่มในต่างจังหวัดไปแล้วอีก 5 แห่งของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย คือเอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ได้แก่ พิษณุโลก ภูเก็ต ระยอง อยุธยา และอุดรธานี ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑลยังมี 5 แห่งเท่าเดิม
      
       'เมื่อมีการขยายจำนวนเลขหมายในการพอร์ตก็จะมีการขยายจุดการให้บริการเพิ่ม เพื่อให้ครอบคลุมและให้บริการผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง'

ขอบคุณ : manager.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

เปิดตัว ipad 2 เจ๋งกว่าเก่าแต่ราคาเท่าเดิม







หลังจากที่ตั้งตาตั้งตารอคอยกันมาเนิ่นนาน แถมยังมีข่าวลือให้แอบลุ้นกันเป็นระลอก ๆ ล่าสุด Apple ก็ได้เปิดตัว iPad 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีสตีฟ จ็อบส์ ผู้บริหารระดับสูงของ Apple มาเปิดตัวเหมือนทุกครั้ง แม้จะอยู่ในช่วงลาพักงานเพื่อรักษาอาการป่วยในช่วงนี้ ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนต่างแห่เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เพื่อเกาะติดและรายงานสถานการณ์ในงานเปิดตัว iPad 2 กันแบบสด ๆ นาทีต่อนาทีเลยทีเดียว ซึ่งหน้าตาและสเปคของ iPad 2 นี้ ก็คล้ายกับที่มีข่าวลือออกมาก่อนนี้ คือ มีขนาดบางลง น้ำหนักเบาลง และมีกล้องทั้งหน้าและหลัง ส่วนสเปคของ iPad 2 นั้น ก็มีการพัฒนาขึ้นบ้างเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้

รุ่น Wi-Fi

- ขนาด 9.50 x 7.31 นิ้ว หนา 8.8 มิลลิเมตร

- จอแสดงผลกว้าง 9.7 นิ้ว ระบบมัลติทัช มีความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล น้ำหนัก 601 กรัม

- หน่วยประมวลผล 1GHz dual-core A5

- หน่วยความจำ 16 GB / 32 GB / 64 GB

- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth 2.1 + EDR

- แบตเตอรี่ Lithium-Polymer สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

- กล้องหน้าความละเอียด VGA และกล้องด้านหลัง ความละเอียด HD 720p (30 เฟรมต่อวินาที) ซูมได้ 5 เท่าแบบดิจิตอล

- ระบบเซนเซอร์ ประกอบด้วย ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Three-axis gyroscope), ระบบปรับการแสดงผลตามการหมุนหน้าจอ (Accelerometer Sensor), และ ปรับแสงสว่างของจอแสดงผลโดยอัตโนมัติ (Ambient Light sensor)

- ลำโพงมีขนาดใหญ่ขึ้น อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง

- มีเข็มทิศดิจิตอล (Digital compass)

- การเชื่อมต่ออุปกรณ์ มีพอร์ทเชื่อมต่อ Dock แบบ 30 เข็ม และชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

- ราคาเครื่อง แบบ 16GB ราคา $499, 32GB ราคา $599, และ 64GB ราคา $699


รุ่น Wi-Fi + 3G

- ขนาด 9.50 x 7.31 นิ้ว หนา 8.8 มิลลิเมตร

- จอแสดงผลกว้าง 9.7 นิ้ว ระบบมัลติทัช มีความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล น้ำหนัก 613 กรัม

- หน่วยประมวลผล 1GHz dual-core A5

- หน่วยความจำ 16 GB / 32 GB / 64 GB

- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n , Bluetooth 2.1 + EDR

- รองรับเครือข่าย UMTS/HSDPA/HSUPA (850, 900, 1900, 2100 MHz); GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz)

- แบตเตอรี่ Lithium-Polymer สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 10 ชั่วโมงบน Wi-Fi และ 9 ชั่วโมงบนเครือข่าย 3G

- กล้องหน้าความละเอียด VGA และกล้องด้านหลัง ความละเอียด HD 720p (30 เฟรมต่อวินาที) ซูมได้ 5 เท่าแบบดิจิตอล

- ระบบเซนเซอร์ ประกอบด้วย ระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Three-axis gyroscope), ระบบปรับการแสดงผลตามการหมุนหน้าจอ (Accelerometer Sensor), และ ปรับแสงสว่างของจอแสดงผลโดยอัตโนมัติ (Ambient Light sensor)

- ลำโพงมีขนาดใหญ่ขึ้น อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง

- มีเข็มทิศดิจิตอล (Digital compass), ระบบ GPS และระบบ Cellular

- การเชื่อมต่ออุปกรณ์ มีพอร์ทเชื่อมต่อ Dock แบบ 30 เข็ม ชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และถาดใส่ซิมการ์ดแบบไมโครชิพ

- สามารถใส่พิกัด GPS ลงในรูปหรือวีดีโอผ่าน WiFi ได้

- ราคาเครื่อง แบบ 16GB ราคา $629, 32GB ราคา $729, และ 64GB ราคา $829

นอกจากนี้ iPad 2 ยังเปิดตัวพร้อมกับอุปกรณ์เสริม คือ แผ่นปิดหน้าจอที่เรียกว่า Smart Cover สีสันสะดุดตา ซึ่งหากพับแผ่นมาปิดหน้าจอ จะทำให้เครื่องเข้าสู่โหมด Sleep อัตโนมัติ และเมื่อเปิดแผ่น Smart Cover ขึ้นเครื่องก็จะเปิดเองโดยอัตโนมัติเช่นกัน ส่วนราคาของ Smart Cover นี้อยู่ที่ $39 สำหรับแบบพลาสติก และ $69 สำหรับแบบหนัง

ขอบคุณ : kapook.com 

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

พบโทรจันบน Android ฉกข้อมูล



ผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยเผยพบโทรจัน (trojan) บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิ้ล (Google) ที่ปลอมตัวเป็น"แอพพลิเคชัน"ที่เหมือนตัวจริงแทบทุกประการ แต่มันกลับสร้างบ็อตเน็ต (botnet) เข้าไปในอุปกรณ์แอนดรอยด์ เพื่อโขมยข้อมูล และป่วนใช้ฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ของเครื่อง

รายงานข่าวล่าสุด ไซแมนเทค (Symantec) บริษัทผู้เชียวชาญระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์โมบาย เปิดเผยว่า จากการสังเกตการณ์ของบริษัทพบจำนวนของมัลแวร์ที่พุ่งเป้าโจมตีไปยังแพลตฟอร์ม Android เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยแพร่ระบาดไปบนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับโทรจันตัวใหม่ที่ตรวจพบชื่อว่า Android.Pjapps Trojan ซึ่งกำลังแพร่กระจายไปบนอุปกรณ์ Android โดยแฝงตัวมาในรูปแบบของแอพพลิเคชันทีดูถูกต้องทุกอย่าง แต่ไม่ได้โฮสต์อยู่บน Android Marketplace ของ Google ก่อนหน้านี้ก็มีการตรวจพบโทรจันบน Android ชื่อว่า Android.Adrd และ Android.Geinimi

"เช่นเดียวกับโทรจันตัวก่อนๆ ที่จะใช้วิธีแฝงตัวมากับแอพพลิเคชันที่ใช้งานบน Android ซึ่งมันเป็นการยากมากที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเวอร์ชันที่ถูกต้องปลอดภัยกับเวอร์ชันอันตราย เมื่อมันถูกติดตั้งเข้าไปแล้ว" Symantec ข้อความเกี่ยวกับ Android.Pjapps Trojan ที่โพสต์ในบล็อก อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการติดตั้ง มันมีความเป็นไปได้ที่จะระบุว่า เป็นแอพฯปลอมที่แฝงโทรจันมาด้วย โดยสังเกตจากการร้องขออนุญาตในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่มากกว่าปกติ ตัวอย่างภาพข้างล่างนี้จะแสดงให้เห็นกระบวนการติดตั้งแอพฯ Steamy Window ที่ปลอดภัยกับเวอร์ชันอันตราย







Android.Pjapps Trojan จะปลอมตัวเป็นแอพฯยอดนิยมอย่าง Steamy Window (แอพที่แสดงภาพของไอน้ำปลอมเกาะทั่วทั้งหน้าจอ โดยสามารถใช้นิ้วปาดออกได้) ซึ่งในเวอร์ชันปลอมจะคงคุณสมบัติการทำงานของแอพฯต้นฉบับไว้อย่างครบถ้วน แต่ในขณะเดียวกันมันจะเพิ่มฟังก์ชันที่ยอมให้ผู้บุกรุกสร้างบ็อตเน็ตขึ้นมาได้ นอกจากนี้ มันยังสามารถติดตั้งแอพพลิเคชันต่างๆ ท่องเข้าไปยังเว็บไซต์ ตลอดจนเพิ่มบุ๊คมาร์คเข้าไปในบราวเซอร์ของผู้ใช้ ส่ง SMS และกันข้อความตอบกลับ ที่อันตรายกว่านั้นก็คือ มันสามารถส่งข้อมูลที่โขมยได้จากในมือถือ หรือแท็บเล็ตส่งกลับไปยังผู้บุกรุกได้อีกด้วย








วิธีป้องกันภัยคุกคามอย่าง Android.Pjapps Trojan และเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อ ทาง Symantec แนะนำให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด และติดตั้งแอพฯจาก Android Marketplaces ที่ได้รับการควบคุมเท่านั้น พร้อมทั้งปรับแต่งค่าของแอพฯ (application settings) ของ Android OS ไม่ให้ติดตั้งแอพฯที่ไม่ได้มาจาก marketplace และควรจะอ่านคอมเมนต์ของผู้ใช้บน marketplace เพื่อช่วยยืนยันว่าแอพฯ ที่ต้องการดาวน์โหลดไปนั้นปลอดภัย นอกจากนี้ ในระหว่างการติดตั้ง Android apps ผู้ใช้ควรตาวจสอบการให้อนุญาตในการเข้าถึงข้อมูล (acess permission) สำหรับการติดตั้งด้วย "หากพบว่า แอพฯที่กำลังติดตั้งมีการร้องขอสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่มากเกินความจำเป็นของแอพฯนั้นๆ มันคงเป็นการฉลาดกว่าที่ไม่ติดตั้งแอพฯตัวนั้นซะ" Symantec กล่าว และคำแนะนำสุดท้าย ผู้ใช้ Google Android ควรติดตั้งเครืองมือรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันการดาวน์โหลดแอพฯที่มาพร้อมกับโค้ดอันตราย รวมถึงทูลส์ดูแล และจัดการระบบฯ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ของคุณทำงานถูกต้อง และปราศจากมัลแวร์


ขอบคุณ : arip.co.th 

Solid-State Drives

นอกเหนือไปจากตลาดทางด้านซีพียูแล้ว ตลาดหน่วยความจำแบบ NAND Flash Memory ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อินเทลที่กำลังรุกเข้ามาอย่างเงียบๆ ซึ่งถ้าใครยังนึกไม่ออก ขอให้นึกถึง Intel Turbo Memory ที่เปิดตัวครั้งแรกใน Intel Centrino Santa Rosa เพราะนั่นก็คือ การนำ NAND Flash Memory มาใช้ประเภทหนึ่ง และอีกทางหนึ่งที่มีการนำไปใช้ล่าสุดก็คือ การนำไปผลิตเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ Solid-State Drive : SSD



สองเทคโนโลยีสู่หนึ่งผลิตภัณฑ์

จากข่าวคราวที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีของอินเทลไม่ว่าจะเป็น ไตรมาสหนึ่งที่อินเทลก็ร่วมมือกับไมครอนในการพัฒนา NAND Flash memory ที่เร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่า คือจากเดิมก็ทำความเร็วในการอ่านข้อมูลได้แค่เพียง 40 MB/s และเขียนนั้นทำได้ที่ 20 MB/s มาเป็นความเร็วในการอ่านข้อมูลได้สูงสุดถึง 200 MB/s และเขียนข้อมูลได้เร็วถึง 100 MB/s และไตรมาสที่สองที่ผ่านมานี้อินเทลก็ได้ร่วมมือกับไมครอนอีกครั้งผลิตชิบ NAND Flash Memory ขนาด 32 กิกะบิต ที่ขนาด 34 ไมครอน พอมาไตรมาสที่สามนี้อินเทลก็เอาเทคโนโลยีทั้งสองมารวมกันแล้วผลิตเป็นฮาร์ดดิสก์ SSD ออกในงาน IDF เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ ซึ่งตอนที่อยู่ในงานนั้น ทางอินเทลเองก็ไม่ได้บอกว่าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับใคร แต่ในขณะที่เดินในงาน IDF ก็ไปเจอป้ายรูปสินค้าข้อมูลในบูตของ Kingston ดังนั้นข้อมูลที่เรารู้เพียงอย่างเดียว ณ วันนี้ ก็คือ อินเทลมีพาร์ทเนอร์รายแรกแล้ว คือ Kingston ซึ่งนั่นแสดงว่าในตลาด SSD ก็จะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรายแล้ว




มาดูทางด้านสเป็กกันบ้าง

ในงาน IDF นั้นทางอินเทลเปิดตัวพร้อมๆ กัน 3 แบบ คือ X25-M และ X18-M โดยมีขนาด 2.5 และ 1.8 นิ้วตามลำดับ ซึ่งเป็นรุ่นที่จะมาเจาะตลาดเดสก์ท็อปกับโน้ตบุ๊ก โดยจะผลิตและออกจำหน่ายได้ในเเดือนกันยายนที่ขนาด 80 กิกะไบต์ และในไตรมาสที่สี่ปีนี้จะผลิตได้ที่ขนาด 160 กิกะไบต์ ส่วนอีกรุ่นคือ X25-E จะเป็นสำหรับตลาดองค์กรเพื่อใช้สำหรับเวิร์กสเตชัน สตอเรจ และเซิร์ฟเวอร์ โดยจะมีขนาด 32 กิกะไบต์ และ 64 กิกะไบต์ ซึ่งทางอินเทลคาดว่าจะผลิตเพื่อสู่ตลาดได้ในอีก 90 วันนับจากผลิตตัว X25-M และ X18-M สำหรับความเร็วในการอ่านและการเขียนนั้น สามารถอ่านถึง 250 MB/s และเขียนข้อมูลได้เร็วถึง 70 MB/s ซึ่งจากข้อมูลนี้นั่นแสดงว่าผลิตภัณฑ์ที่ออกนี้จะอ่านได้เร็วกว่า แต่เขียนช้ากว่า NAND Flash memory ที่ร่วมพัฒนากับไมครอนเมื่อต้นปี

ไม่ได้มีแต่ SATA เท่านั้น PATA ก็มีด้วย

หลังจากกลับงาน IDF 2008 ได้ พอเข้าไปดูในเว็บไซต์อินเทล http://www.intel.com/design/flash/nand นอกเหนือไปจากอินเทอร์เฟซแบบ SATA แล้วอินเทลยังมีอินเทอร์เฟซแบบ PATA ด้วย คือ Z-P230 และ Z-P140 ซึ่งสาเหตุที่มีก็เพราะในปี 2006 ทางอินเทลเริ่มประกาศถึงแพลตฟอร์ม Atom ซึ่งในขณะนั้นสนับสนุนอินเทอร์เฟซแบบ PATA เพียงอย่างเดียว ดังนั้นทางอินเทล (Nand Product Group) จึงตัดสินใจเลือกผลิตทั้งแบบ SATA และ PATA สำหรับข้อมูลในส่วนของ ZP230 ได้รับการออกแบบมาใช้เพื่อใช้กับ Netbook และ Nettop มีความจุขนาด 4 กิกะไบต์และ 8 กิกะไบต์ตามลำดับ ส่วนขนาด 16 กิกะไบต์จะออกในไตรมาสสี่ ส่วน Z-P140 ออกแบบสำหรับเครื่อง MID รวมไปถึงมือถือด้วย มีความจุขนาด 4, 8 และ 16 กิกะไบต์

ขอบคุณ : arip.co.th

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีการตั้งค่า internet & mms ของค่ายต่างๆ APNs Config

วิธีการตั้งค่า internet & mms ของค่ายต่างๆ APNs Config

AIS

name AIS

apn internet

username ais

password ais

server no

mmsc http://mms.mobilelife.co.th

mms proxy 203.170.229.34

mms port 8080

mcc ไม่ต้องแก้ไข

mnc ไม่ต้องแก้ไข

apn Type default



DTAC

name DTAC

apn www.dtac.co.th

proxy 203.155.200.133

port 8080

username no

password no

server no

mmsc http://mms.dtac.co.th:8002/

mms proxy 203.155.200.133

mms port 8080

mcc ไม่ต้องแก้ไข

mnc ไม่ต้องแก้ไข

apn Type default

ถ้าต้องการตั้งให้รับ MMs ได้ด้วยก้ทำตามนี้นะครับ


Name : Dtac Mms
APN : MMS
MMSC : http://mms.dtac.co.th:8002
MMS Proxy : 203.170.229.34
MMS Port : 8080
APN Type : mms


TRUE

name TRIUE

apn internet

proxy 10.4.4.4

port 8080

username true

password true

server no

mmsc http://mms.trueworld.net

mms proxy 10.4.7.39

mms port 8080

mcc ไม่ต้องแก้ไข

mnc ไม่ต้องแก้ไข

apn Type default

ขอบคุณ : thaiandroidphone.com

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Nod32Keys

In  19 February 2011

Username: EAV-38235313
Password: 3pf3vbprv5

Username: EAV-38240431
Password: 4ue7submap

Username: EAV-38240436
Password: tdn5fcx84t
Expiry Date: 26.05.2011

Username: EAV-38241130
Password: r3465xc7ad

Username: EAV-38962942
Password: 3ptxx4crp6
Expiry Date: 13.06.2011

Username: EAV-38962950
Password: c58xe6aaaj

Username: EAV-38963120
Password: 48f3rpbakf

Username: EAV-38972505
Password: 8smx62aknf

Username: EAV-39032730
Password: 78h7xdb8ut

Username: EAV-39032816
Password: jcba4dkpu3

Username:EAV-41485401
Password:7rutevcdrp

Username:EAV-41485371
Password:7v5pddv4m3

Username:EAV-41485373
Password:ck5k888smu

Username:EAV-41485398
Password:mumska3f3e

Username:EAV-41485382
Password:36rrn56fvn

Username:EAV-41485378
Password:mss22ej4u2

Username:EAV-41485375
nod32key:4xjv7s875p

Username:EAV-41485384
nod32key:8srmhxf7xh

Username:EAV-41485405
nod32key:k4um5kxstd

Username:EAV-41485407
nod32key:bebx46×7aa

Username:EAV-41485387
nod32key:sn2pbjs4ps

Username:EAV-41485386
nod32key:x782fhfkdd

Username:TRIAL-41897784
nod32key:6pehd2r37c

Username:TRIAL-41897784
nod32key:6pehd2r37c

Username:TRIAL-41897781
nod32key:mu7ekce6e4

Username:TRIAL-41897766
nod32key:25ben7j6cb

Username:TRIAL-41897765
nod32key:mx5andjxku

Username:TRIAL-41897764
nod32key:tfcjtcafbf

Windows7SP1 เปิดให้อัพเดดแล้ว






 

เมื่อวานนี้ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศว่า ทางบริษัทได้เปิดเให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลด Windows 7 Service Pack 1 จากทาง Microsoft Download Center ได้แล้ว ซึ่งผู้ใช้ที่อัพเดตพีซีของตนเองทาง Microsoft แนะนำให้ใช้ช่องทาง Windows Update แทนการดาวน์โหลดตัวติดตั้ง Windows 7 SP1 จะสะดวกกว่า

"พึงระลึกว่า สำหรับ Windows 7 SP1 จะเป็นชุดอัพเดตส่วนการทำงานต่างๆ ของพีซี โดยอัพเดตส่วนใหญ่จะรวบรวมจาก Windows Updates ที่ให้บริการก่อนหน้านี้" ไมโครซอฟท์ย้ำในบล็อก "อย่างไรก็ก็ตาม มันได้มีการเพิ่มส่วนสนับสนุนการทำงานในฝั่งไคลเอ็นต์อย่างเช่น RemoteFX และ Dynamic Memory ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่สำหรับการทำงานร่วมกับระบบ Virtualizatin (เหมาะสำหรับองค์กร) บน Windows Server 2008 R2 SP1" หากพิจารณาภาพรวมของ SP1 แล้ว ประโยชน์สำหรับผู้ใช้พีซีตามบ้านดูอาจจะมีไม่มากนัก โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ได้อัพเดตระบบอยู่เป็นประจำ

ในส่วนของ Dynamic Memory จะเปิดโอกาสให้ระบบแอดมินของ Windows Server Hyper-V สามารถเพิ่มจำนวน VM ได้โดยไม่กระทบกระเทือนต่อสมรรถนะการทำงาน ตลอดจนการขยายระบบ และความปลอดภัย ส่วน RemoteFX จะเป็นการใช้ประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU บนเซิร์ฟเวอร์ให้สามารถส่งคอนเท็นต์มัลติมีเดีย และ 3D ไปบนไคลเอ็นต์ที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพการทำงานทางด้านกราฟิกสูงมากได้ ขนาดไฟล์ของ SP1 ประาณ 537.8MB (เวอร์ชัน 32 บิต) และ 903.2MB (เวอร์ชัน 64 บิต) สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ใช้ Windows Update แล้วไม่พบ Service Pack 1 ปรากฎในรายการ อาจเป็นเพราะว่า คุณยังไม่ได้ติดตั้งอัพเดตบางตัวก่อนหน้านี้ ทาง MS แนะนำให้ติดตั้งอัพเดตเหล่านั้นก่อน แล้วคลิกปุ่ม Check for updates อีกที


ขอบคุณ : Arip.co.th 

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Nod32Keys in May-July2011

หามาแจกอีกแว้ว!!!!
Username: EAV-41403332
Password: uaxsackhxv
Expiration: 21.05.2011

Username: EAV-41447448
Password: j54burff4e
Expiration: 22.05.2011

Username: EAV-38882694
Password: 7xne2844s3
Expiry Date: 11.06.2011

Username: EAV-38884959
Password: v8v7xrt5j4
Expiry Date: 11.06.2011

Username: EAV-38884963
Password: nr65m8enc7
Expiry Date: 11.06.2011

Username: EAV-39103939
Password: hpd7ksepma
Expiry Date: 17.06.2011

Username: EAV-39103941
Password: pdd5emrdn5
Expiry Date: 17.06.2011

Username: EAV-39103942
Password: 4jkaeerkdj
Expiry Date: 17.06.2011

Username: EAV-39103944
Password: 88k6aa3bed
Expiry Date: 17.06.2011

Username: EAV-39103946
Password: evk355c2f8
Expiry Date: 17.06.2011

Username: EAV-39521995
Password: mp5vdcrdcu
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39523362
Password: m6nbfevkpu
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39531950
Password: 7m5a2v5r5u
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39531954
Password: kx53nkr67j
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39532824
Password: n3b8kc4uch
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39539043
Password: fsnmefch5b
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39539059
Password: 4jjmcn8h74
Expiry Date: 28.06.2011

Username: EAV-39581366
Password: n62hp37nsf
Expiry Date: 29.06.2011

Username: EAV-39581370
Password: 4f2bdpt4t6
Expiry Date: 29.06.2011

Username: EAV-39581373
Password: mb7c7c6xkd
Expiry Date: 29.06.2011

Username: EAV-39627483
Password: 55nr5nd5up
Expiry Date: 30.06.2011

Username: EAV-39628180
Password: 6mtru6mxhf
Expiry Date: 30.06.2011

Username: EAV-39628194
Password: jppvxh7ajd
Expiry Date: 30.06.2011

Username: EAV-40179430
Password: rjxbmckbj6
Expiry : 17.07.2011

Username: EAV-40179413
Password: 7rk3ekrtxc
Expiry : 17.07.2011

Username: EAV-39935083
Password: b35bvr34je

Username: EAV-39935084
Password: xuv6vx3ut2

Username: EAV-39935090
Password: cuvfee5srf

Username: EAV-39935143
Password: jn7apvnmn2

Username: EAV-39935135
Password: u4ma73k57c

Username: EAV-39935126
Password: hmbemuhsf7

Username: EAV-39935148
Password: t62b4f33uu

Username: EAV-39935154
Password: pfj7e7e8cb

Username: EAV-40043135
Password: h8hc7vteef

Username: EAV-40043138
Password: 2dbadahhp8

Username: EAV-40043144
Password: 375euxk8ua

Username: EAV-40043159
Password: smekxjpehv

Username: EAV-40043160
Password: ef8exsp8sh

Username: EAV-39799777
Password: 5m337c55va

Username: EAV-39799778
Password: v5sr4dem7n

Username: EAV-40097690
Password: a6m27va6bc

Username: EAV-40097692
Password: 4fm5c42ebh

Username: EAV-40097695
Password: jmd3jfnjj8

Username: TRIAL-40477659
Password: 2xmkrs7dat

Username: TRIAL-40477642
Password: tcjj323fds

Username: TRIAL-40477785
Password: 3kkm35e32t

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Galaxy Tab 10.1 และ S II เปิดตัวแล้ว


ายงานข่าวล่าสุด ในงาน Mobile World Congress 2011 ที่จัดขึ้นณ.กรุงบาเซโลาน่า ประเทศสเปน ตั้งแต่วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ Samsung ได้ถือโอกาสนี้เปิดตัวแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่นั่นก็คือ Galaxy Tab 10.1 หลังจากวางจำหน่ายรุ่นแรกได้ 4 เดือน โดยความแตกต่างจากรุ่นแรกที่เห็นได้ชัดก็คือ มันมีขนาดของหน้าจอใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว (ใหญ่กว่า iPad)



สำหรับ Samsung Galaxy Tab 10.1 จะมาพร้อมกับจอแอลซีดีความละเอียดระดับ WXGA (1280x800 พิกเซล) ทำงานด้วยโพรเซสเซอร์"ดูอัลอคอร์"ความเร็ว 1GHz และใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Android 3.0 (Honeycomb) ที่ได้รับการพัฒนาออกมาเพื่อใช้งานกับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล ทำให้สามารถใช้วิดีโอคอลล์ได้ สามารถบันทึก และเล่นเกลับวิดีโอ FullHD 1080p ได้อีกด้วย สำหรับตัวเครื่องจะมีความบางเป็นพิเศษแค่ 0.43 นิ้ว และหนักเพียง 599 กรัมเท่านั้น



นอกจาก Samsung จะเปิดตัว Galaxy Tab 10.1 แล้ว ทางบริษัทยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ด้วยนั่นคือ Samsung Galaxy S II ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก แค่ 8.48 มม.เท่านั้น โดยการออกแบบ Galaxy S II ทางบริษัทโฟกัสที่สามส่วนหลักๆ ของการใช้งานได้แก่ หน้าจอ (จอ Super AMOLED+ ขนาด 4.27 นิ้ว) ความเร็ว (โพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ 1GHz) และคอนเท็นต์ (ทำงานด้วย Android 2.3 Gingerbread) นอกจากนี้ Samsung Galaxy S II ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีรู้จำเสียง (voice recognition) ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งพิมพ์ข้อความบนสามาร์ทโฟนด้วยเสียงพูดของตนเองแทนการสัมผัสหน้าจอได้ และที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ อีกจุดหนึ่งนั่่นก็คือ การใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถนำ Galaxy S II ไปแตะกับเครื่องสัญญาณ (receptor) เพื่อชำระค่าบริการต่างๆ อย่างเช่น แทนบัตรรถไฟฟ้า ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย Galaxy S II ยังมาพร้อมกับกล้อง 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED กล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซล สามารถเรียกใช้วิดีโอคอลล์ได้เช่นกัน

ขอบคุณ : เนื้อหาข่าว arip.co.th ภาพประกอบ Google.com